ขั้นตอนการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ HYUNDAI H1 (ฮุนได เอช 1 )

ขั้นตอนการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ HYUNDAI H1 (ฮุนได เอช 1 )

Written By maxautopit on วันพฤหัสบดีที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2560 | มิถุนายน 01, 2560

 วันนี้ GURU BY Mr.MAX  จะแนะนำขั้นตอน สำหรับ การเปลี่ยน้ำมันเกียร์ HYUNDAI H1

การเปลี่ยน ไม่ยากครับ แค่ เตรียมน้ำมัน ให้ ถุกสเป็ค ตามคู่มือ รถ ก็เปลี่ยน ได้ แล้วครับ   สำหรับ HYUNDAI H1

ในสมุดคู่มือ บอกว่าใช้น้ำมันเกียร์อัตโนมัติ Apolloil ATF Red1 เราจะใช้น้ำมัน ของ HYUNDAI  ก็ได้ 
หรือใช้ เกียร์ออโต้ ของเชลล์  shell spirax  S5 ATF X ซึ่งมาตรฐาน รองรับ  HYUNDAI  ATF Red1

                    สำหรับ จำนวน ที่จะเปลี่ยน  ในคู่มือบอกว่าเปลี่ยนทั้งหมด 10 ลิตร  ในกรณี เปลียน ถ่ายทั้งระบบ   ใน วันนี้ เราจะให้เปลี่ยน  กรณี เปลี่ยน ถ่ายน๊อตท้องอ่าง เปลี่ยนแค่ประมาณ  5 ลิตรเท่านั้น ที่เหลืออีก 5 - 6 ลิตรมันค้างอยู่ในเรือนเกียร์ ไม่สามารถถ่ายออกได้หมด 

  ขั้นตอนการ เปลียน

  1. HYUNDAI H1   เกียร์รุ่นนี้ จะไม่มี ก้านวัด น้ำมันเกียร์ ครับ ในกรณี ถ่าย ออก ควร หาอ่างมารองวัด ปริมาณ
เพื่อ จะได้ วัดปริมาณ ที่ ถ่าย ออก กับ เติมเท่ากันไหม

 2. ถ่ายน๊อต ก้นอ่าง ปล่อยน้ำมันออก วัดปริมาณที่ออก

3.เปิดรูเติมล้นด้านข้าง ออก  (น๊อต หกเหลี่ยม)  ให้เติมจากด้าน บนหน้าเครื่องลงมา กรณีกรวยเติมยางไม่ถึงอาจต้องต่อสาย ให้ถึง รูเติม

4.เปิดน๊อต สำหรับน้ำมันล้นออก  ด้านข้าง น๊อตเบอร์ 24 เติมให้น้ำมันล้นช่องนี้แล้ว ปิด



5. ติดเครื่องยนต์  แล้วเติม น้ำมันเข้าไปอีกรอบ  ให้ล้น น๊อตล้นด้านข้าง แล้ว ปิดน๊อต ล้น และน๊อตเติมได้

ถือว่าเสร็จสิ้น ขบวนการ  การเปลี่ยน แบบนี้ ใช้ น้ำมัน ประมาณ 4-5 ลิตร  ครับ


















 น้ำมันเฟืองท้าย ในคู่มือบอกให้ใช้มาตรฐาน API (ย่อมาจาก..American Petroleum Institute) GL-4 (SAE หรือเบอร์ความหนืด140) ตรงนี้เป็นมาตรฐานขั้นต่ำ สำหรับรถที่ไม่ได้ใช้งานหนัก เช่นขับบนทางราบในเมือง ไม่ได้บรรทุกหนัก หรือใช้ลากรถ เป็นต้น
...สำหรับรถที่ใช้งานหนัก อย่างท่านที่ใช้บรรทุกหนัก เดินทางไกล ขึ้นดอย-ลงดอย เฟืองท้ายมันจะเกิดการโหลด เพราะต้องออกแรงกำลังเกินจนเกิดโอเวอร์ฮีทได้ง่ายๆ เนื่องจาก torque สูง ,การใช้งานที่เกินกำลังหรือสภาวะแรงกดดัน HP (High Pressure)สูงแบบนี้ สมควรใช้น้ำมันเฟืองท้ายที่เติมสารเพิ่มคุณภาพที่จะช่วยลดแรงเสียดทาน/ความสึกหรอของโลหะภายในได้ดีที่อุณหภูมิการใช้งานสูงในขณะนั้น ในขณะเดียวกันกับที่คุณสมบัติการหล่อลื่นก็ไม่เสียไปด้วย จึงสมควรใช้แบบมัลติเกรด สังเคราะห์แท้ GL-5 เพราะมันมีสารเพิ่มคุณภาพพวกสารประกอบซัลเฟอร์/ฟอสฟอรัสมากกว่าเกรด GL-4 อยู่ประมาณ 2 เท่า จึงมีความสามารถในการปกป้องความเสียหายของหน้าสัมผัสเฟืองได้ดีกว่า